สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนป่าเเป๋วิทยา

การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
---|---|
อาณาจักร: | Plantae |
ไม่ถูกจัดอันดับ: | Angiosperms |
ไม่ถูกจัดอันดับ: | Monocots |
ไม่ถูกจัดอันดับ: | Commelinids |
อันดับ: | Poales |
วงศ์: | Poaceae |
เผ่า: | Bambuseae |
สกุล: | Thyrsostachys |
สปีชีส์: | T. siamensis |
ชื่อทวินาม | |
Thyrsostachys siamensis Gamble | |
ชื่อพ้อง[1] | |
|
ไผ่รวก
(ชื่อวิทยาศาสตร์: Thyrsostachys siamensis) เป็นไผ่ขนาดค่อนข้างเล็ก เหง้ารวมเป็นกอแน่น กาบหุ้มลำต้นรัดแน่น ไม่หลุดจนแก่ ยอดกาบเรียงสอบไปหาปลาย ไม่มีติ่งปลายกาบ ใบเดี่ยวเรียงสลับ 2 แถว ทนแล้งได้ดี กระจายพันธุ์ทั่วทุกภาคของประเทศไทย นิยมปลูกกันลมหรือปลูกเป็นรั้ว พบครั้งแรกในประเทศไทย ชื่อสปีชีส์ตั้งเป็นเกียรติให้แก่ประเทศไทย กระจายพันธุ์ใน ยูนนาน พม่า ลาว ไทย เวียดนาม ศรีลังกา บังกลาเทศ มาเลเซีย
(ชื่อวิทยาศาสตร์: Thyrsostachys siamensis) เป็นไผ่ขนาดค่อนข้างเล็ก เหง้ารวมเป็นกอแน่น กาบหุ้มลำต้นรัดแน่น ไม่หลุดจนแก่ ยอดกาบเรียงสอบไปหาปลาย ไม่มีติ่งปลายกาบ ใบเดี่ยวเรียงสลับ 2 แถว ทนแล้งได้ดี กระจายพันธุ์ทั่วทุกภาคของประเทศไทย นิยมปลูกกันลมหรือปลูกเป็นรั้ว พบครั้งแรกในประเทศไทย ชื่อสปีชีส์ตั้งเป็นเกียรติให้แก่ประเทศไทย กระจายพันธุ์ใน ยูนนาน พม่า ลาว ไทย เวียดนาม ศรีลังกา บังกลาเทศ มาเลเซีย
การใช้ประโยชน์ ไผ่รวก
ไม้ ลำไม้รวกใช้ประโยชน์ในการตบแต่งบ้าน หรือส่วนต่าง ๆ ไผ่รวกมีความสวยงามเพราะขึ้นเป็นกอ ลำเรียวเปลาตรง กิ่งใบน้อยและอยู่เฉพาะตอนปลายของลำเท่านั้น การใช้ประโยชน์ในด้านเครื่องอุปโภค และอื่น ๆ คือ ทำรั้ว ทำคันเบ็ด ทำเครื่องจักสาน เครื่องมือกสิกรรมบางอย่าง โป๊ะน้ำตื้น
ใช้ ก่อสร้างเป็นส่วนต่าง ๆ ของบ้านในชนบท ใช้ทำเป็นไม้อัด เครื่องตบแต่งบ้าน ไม้ถือ ในประเทศพม่าใช้ไผ่รวกทำด้ามร่มเป็นบางที่ก็เรียกว่า "ไผ่วัด" (Kyanug - wa) ประโยชน์อีกประการหนึ่งคือ การปลูกเป็นแนวกั้นลม เป็นไม้ค้ำยันพืชกสิกรรมต่าง ๆ การขยายพันธ์ของไผ่รวกทำได้ง่าย มีความทนทานต่อความแห้งแล้ง และดินที่มีความเด็มทำให้มีการปลูกได้เกือบทั่วประเทศไทย
ด้านการเป็นถ่านและฟืน ให้ความร้อน 6,512 แคลอรี่/กรัม
ด้านสมุนไพร ส่วนที่ใช้เป็นสมุนไพรและมีสรรพคุณคือ
ราก ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ แก้หนองใน ขับโลหิตระดู แก้มุตกิดระดูขาว แก้ไข้กาฬ แก้ไข้กาฬมูต แก้กระหายน้ำ แก้เบาแดง บำรุงเสมหะและโลหิต ชำระเสมหะและโลหิต ประสะโลหิต แก้ไข้พิษ
ขุยไผ่ แก้ทางปัสสาวะ แก้เสมหะ แก้บิด แก้โรคตาแดง แก้หืดไอ แก้ไข้
ใบ ขับฟอกล้างโลหิตระดูที่เสีย ประสะโลหิต ล้างทางปัสสาวะ
ผล แก้โรคตา แก้หืด ไอ แก้ไข้อันผอมเหลือง แก้ฟกบวม แก้ไข้
หน่อไม้ แก้ หัวริดสีดวงทวารหนัก บำรุงร่างกาย ตา แก้สตรีกตเลือดไม่หยุด ขับปัสสาวะ ดูดลมในกระเพาะอาหาร แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ฝี แก้กาฬเลือด หนาม แก้พิษฝีต่าง ๆ แก้ไข้ แก้ไข้พิษ แก้ไข้กาฬ
ไม่ระบุส่วนที่ใช้ ห้ามเลือด แก้สตรีตกเลือดไม่หยุด แก้โรคตา แก้ฝี แก้กาฬเลือด
ข้อมูลการวิจัยที่สำคัญ สารเคมีคือ
arabinogalactan ; p-bmzoquinone, 2, 6, dimethoxy ; cholorophyllin ; chrysanthemin ; p-coumaroyl arabinoxylan tetrasaccharide ; cytokinin ; ferulic acid ; ferulgylated arabinoxylan oligosaccharide ; homo-gentisic acid ; hydroxyanic acid ; P-hydroxy-phenylpyruvate hydroxylase ; invertase ; oxalic acid ; pentosam ; sinapic acid ; vanillic acid ; xylan.
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
เป็น พิษต่อตัวอ่อน ลดน้ำตาลในหนูที่เป็นเบาหวาน ต้านแบคทีเรีย ลดการสร้างอสุจิ ลดการผสมพันธุ์ในหนูฆ่าอสุจิ ลดคอเลสเตอรอล ลดพิษของสีแดง บำรุงผมและผิว ฆ่าตัวอ่อน ต้านการกลายพันธุ์ ฤิทธิ์เหมือน serotonin ต้านไวรัส ต้านมะเร็ง ลดอาการลมหายใจเหม็น ยับยั้ง trypsin
ใช้ ในเครื่องสำอางเพื่อดับกลิ่นและฆ่าเชื้อ เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ใช้ในการถูนวดร่างกาย เพิ่มฤทธิ์กระตุ้น graunlocyte ของ CD11b, CD15 และ CD35 ไล่แมลง ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และราในเนื้อ กระตุ้นภูมิต้านทาน ทำให้แท้งรักษาโรคอ้วน
ด้านเป็นพืชอาหาร ส่วนที่ใช้เป็นอาหาร คือ
หน่อ กินได้ เมื่อต้มหลายครั้งหรือต้มใส่ใบย่านางด้วย จะทำให้หน่อไม้ไผ่รวกมีรสชาติดีขึ้นและเป็นที่นิยมกัน นอกจากนั้นเมื่อปอกทำความสะอาดหน่อแล้ว ต้มอัดใส่ปี๊บไม่ให้อากาศเข้าสามารถเก็บเอาไว้นอกฤดูกาล ทำให้มีการทำ "หน่อไม้ปี๊บ" ออกจำหน่ายปีละหลายร้อนล้านบาทจากป่าต่าง ๆ ทั่วประเทศ หน่อไม้ควรต้มน้ำรินน้ำทิ้งอย่างน้อย 2 - 3 ครั้ง จะลดความขมออกไปได้มาก
กองโภชนาการ กรมอนามัย รายงานเมื่อปี พ.ศ. 2530 ว่า ในหน่อไม้ไผ่รวกมีปริมาณคุณค่าสารอาหารดังนี้ คือ
สารอาหาร
|
หน่อไม้ไผ่รวกเผา
|
หน่อไม้ไผ่รวกต้ม
|
หน่วย
|
พลังงาน
|
33
|
24
|
แคลอรี่
|
น้ำ
|
90.4
|
93.2
|
กรัม
|
ไขมัน
|
0.3
|
0.4
|
กรัม
|
คาร์โบไฮเดรต
|
4.1
|
2.5
|
กรัม
|
ไฟเบอร์
|
0.7
|
0.8
|
กรัม
|
โปรตีน
|
3.5
|
2.5
|
กรัม
|
แคลเซียม
|
1.4
|
12
|
มิลลิกรัม
|
ฟอสฟอรัส
|
42
|
40
|
มิลลิกรัม
|
เหล็ก
|
0.2
|
0
|
มิลลิกรัม
|
วิตามินเอ
|
-
|
0
|
มิลลิกรัม
|
วิตามินบี 1
|
-
|
0.01
|
มิลลิกรัม
|
วิตามินบี 2
|
-
|
0.08
|
มิลลิกรัม
|
ไนอะซิน
|
-
|
-
|
มิลลิกรัม
|
วิตามินซี
|
-
|
0
|
มิลลิกรัม
|
หมายเหตุ - หมายถึง ยังไม่มีรายงาน
ด้านการเป็นไม้ประดับ ความน่าสนใจของไม้ต้นนี้ คือเป็นไม้ป่าในเขตร้อนที่มีอยู่ทั่วไปทั่วแผ่นดินไทย มีลำต้นและกอที่เป็นระเบียบสวยงาม มีใบเล็กและพลิ้วลมได้ดี ต้นอ่อนลู่ตามแรงลมสวย แต่เปลาตรง ไม่มีหนาม ผิวต้นสดเขียวแก่ เมื่อแห้งสีเหลืองละออตา เป็นอาหารและสมุนไพรที่มีคุณค่า
ด้านการเป็นไม้ประดับ ความน่าสนใจของไม้ต้นนี้ คือเป็นไม้ป่าในเขตร้อนที่มีอยู่ทั่วไปทั่วแผ่นดินไทย มีลำต้นและกอที่เป็นระเบียบสวยงาม มีใบเล็กและพลิ้วลมได้ดี ต้นอ่อนลู่ตามแรงลมสวย แต่เปลาตรง ไม่มีหนาม ผิวต้นสดเขียวแก่ เมื่อแห้งสีเหลืองละออตา เป็นอาหารและสมุนไพรที่มีคุณค่า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น